[Live] เทคนิคคิด Content ให้ลื่นไหลไร้ขีดจำกัด จากพี่โย Photoschool Thailand

ในการทำ Content ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบ Text หรือว่าคลิปวิดีโอ สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับทุกคนแน่นอนก็คือ จะทำยังไงให้เรามี Content ได้แบบตลอดเวลา ใน Live นี้ผมมีโอกาสได้คุยกับ “พี่โย” (Yochuwa Samarom) เจ้าของเว็บไซต์และเพจ Photoschool Thailand เพื่อสอบถามถึงวิธีการคิด Content ยังไงให้สามารถมีไอเดียออกมาได้ตลอดเวลากันครับ

นอกเหนือจากในเรื่องของ Content แล้ว ใน Live นี้ ผมยังได้ฟังประสบการณ์และมุมมองการดำเนินชีวิตเพื่อให้ไปสู่เป้าหมายด้วย ซึ่งผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีคุณค่าสำหรับคนทำงานทุกคน จึงได้สรุปแยกเอาไว้เป็น 2 เนื้อหา คือส่วนของการทำ Content และมุมมองการใช้ชีวิตมาให้ทุกคนได้อ่านอีกทีครับ

คิด Content ให้ลื่นไหลจาก Photoschool Thailand

เทคนิคการคิด Content ให้ลื่นไหล มีเนื้อหามาลงได้ตลอดเวลา

1. ทำความเข้าใจคนที่จะดู Content ของเราก่อน

เนื้อหาที่จะทำอาจจะมีหลายแบบ แต่สิ่งที่คนดูในกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการเป็นใคร เค้าชอบอะไร เป็นแบบไหนและมีปัญหาอะไรบ้าง การที่เราเข้าใจคนดูของเรา จะทำให้เราได้รู้ว่ารูปแบบเนื้อหาของเราที่เหมาะสมคืออะไร

2. นึกก่อนว่าเนื้อหาที่จะทำ คนดูของเราได้ประโยชน์อะไร

การที่เราทำ Content ขึ้นมา คนดูของเราจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาบ้าง Content นั้นสามารถแก้ปัญหาของเขาได้ไหม เขาสามารถนำไปต่อยอดได้หรือเปล่า หากว่าเนื้อหานั้นไม่มีประโยชน์กับใคร ก็ไม่ควรจะทำ

3. แตกประเด็นเพื่อให้ครอบคลุมเนื้อหาที่อยากนำเสนอ

เมื่อได้หัวข้อแล้ว การทำ Content 1 เรื่อง อาจจะสามารถพูดถึงได้ในหลายประเด็นเพื่อให้ครอบคลุมเนื้อหาจากหลายมิติ อย่างเช่นตัวอย่างที่พี่โยพูดถึงการรีวิวไมค์ (นาทีที่ 50.45) การนำเสนอจะไม่ใช่การรีวิวเพียงอย่างเดียวแล้วจบ แต่เป็นการนำเสนอในเรื่องมุมมองการใช้งานในรูปแบบต่างๆ และให้ไอเดียสำหรับต่อยอดไปด้วยในตัว ปริมาณ Content ที่สามารถทำได้ก็จะเพิ่มมากขึ้น

4. มองให้เห็น Content รอบๆ หัวข้อที่เราจะทำ

สิ่งที่แม้แต่ผมเองก็เจอคือการแตกประเด็นใน ข้อ 3 นั้น เรามักจะโยงจากจุดศูนย์กลางคือหัวข้อของเนื้อหา ออกไปหาหัวข้ออื่นๆ แต่วิธีคิดของพี่โยคือ การนำ Content อื่นๆ รอบนอกที่น่าจะเกี่ยวข้อง โยงเข้ามาหาจุดศูนย์กลาง สิ่งนี้เป็นเรื่องเดียวกันกับที่หลายๆ คนเคยบอกว่า เมื่อเรามองเรื่องต่างๆ จากจุดที่ไกลออกไป เราจะมองเห็นภาพรวมและสิ่งที่อยู่แวดล้อมได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

เทคนิคคิด Content จาก Photoschool Thailand
หน้าเว็บไซต์ photoschoolthailand.com

มุมมองการใช้ชีวิตให้บรรลุเป้าหมาย

นอกเหนือจากเรื่องการคิด Content แล้ว พี่โยได้เล่าเรื่องความเป็นมาของ Photoschool Thailand และสิ่งที่ทำให้พี่โยมาถึงวันนี้ได้ ซึ่งผมคิดว่านี่คืออีก 1 หัวข้อที่ผมได้มาจากการพูดคุยกันในครั้งนี้ และไม่อยากให้ทุกคนพลาดเรื่องราวดีๆ อันนี้ไป จึงแยกหัวข้อมาได้ตามนี้ครับ

1. รู้ก่อนว่าเป้าหมายในชีวิตจริงๆ ของเราคืออะไร

คำตอบนี้ได้มาจากการที่ผมถามพี่โยว่า “ทำยังไงให้เรารักในงานที่ทำ” (นาทีที่ 39) พี่โยเลยให้คำถามที่เป็นคำตอบกลับมาว่า “เรามีเป้าหมายชีวิตอะไรมั้ย?” เพราะเป้าหมายของชีวิตจะเป็นตัวกำหนดว่า เราจะเดินไปในทิศทางไหน ด้วยความเร็วเท่าไหร่ และแต่ละวันเราต้องทำอะไร

2. สิ่งที่เราทำอยู่สามารถนำเราไปสู่เป้าหมายนั้นได้หรือเปล่า

พี่โยเล่าให้ฟังถึงเกมออนไลน์ในสมัยก่อนคือ Ragnarok (จริงๆ สมัยนี้ก็มี แต่อยู่บนมือถือแล้ว) เกมจะมีการเก็บเลเวลของตัวละคร เก็บเลเวลของอาชีพ ซึ่งในการเก็บเลเวลนั้น จะต้องเสียทั้งเวลาและต้องทำภารกิจต่างๆ ลงทุนในการหาของมาอัพเกรดอาวุธในสายอาชีพนั้นๆ ซึ่งถ้าหากว่าเราไม่ชอบ เราไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากไปเริ่มใหม่

ฉะนั้น เราควรดูก่อนว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ สามารถช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายที่เราวางไว้ในอนาคตได้หรือเปล่า หรือว่าเรากำลังเดินผิดทาง ไม่เช่นนั้น เราอาจจะต้องเสียเวลาเริ่มใหม่ ในตอนที่มันช้าเกินไปก็ได้

3. เอาตัวเองไปอยู่ในที่ๆ เราได้ทำสิ่งที่ชอบ

เราชอบในสิ่งที่เราทำอยู่หรือเปล่า หากว่าเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ และสิ่งนั้นสามารถพาเราไปสู่เป้าหมายได้ แปลว่าเราน่าจะมาได้ถูกทางแล้ว พี่โยตั้งเป้าไว้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำต้องมีประโยชน์กับคนอื่น มีประโยชน์กับตัวเอง และต้องเป็นสิ่งที่พี่โยชอบ นั่นทำให้เกิด Photoschool Thailand ขึ้นมา และมันก็นำพาพี่โยไปพบกับโอกาสและผู้คนอีกมากมาย

“ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต เรายังจะทำสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้หรือเปล่า ?” พี่โยนำคำพูดของสตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Apple ที่ได้กล่าวไว้ตอนปี 2005 ในงานพิธีจบการศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งช่วยให้คำตอบได้เป็นอย่างดีกว่า เรากำลังรู้สึกยังไงกับงานของเรา

4. สิ่งที่เราชอบนั้น สามารถสร้างรายได้มากพอให้เราอยู่ได้หรือเปล่า

พี่โยให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า เราควรจะทำในสิ่งที่ชอบก่อนที่จะมองเรื่องของรายได้ เพื่อให้สิ่งที่ทำนั้นมีความยั่งยืน การได้ทำในสิ่งที่ชอบจะทำให้เราสามารถทำมันได้นาน โดยไม่เบื่อและท้อกับมันง่ายๆ จากนั้นให้มองว่าเราจะสามารถสร้างรายได้จากมันได้ยังไงต่อไป

5. ต้นทุนเวลาของทุกคนเท่ากัน

ใน 1 วัน คนทุกคนมีเวลา 24 ชม.เท่ากัน พี่โยเล่าให้ฟังถึงเรื่องการเริ่มต้นของตัวเองที่ไม่มีทุนในเรื่องของเงิน แต่จัดการทุนในเรื่องของเวลาเพื่อมาเติมรายได้ที่ขาดไป ลองมองดูตัวเราเองว่า สิ่งที่เราขาดไปในตอนนี้ เราสามารถนำทุนในเรื่องของเวลามาจัดการยังไงกับมันได้บ้าง ถ้าเราเงินไม่พอ และยังมีเวลาที่ยังทำเรื่องที่สำคัญน้อยกว่านี้ได้ ให้ลองแบ่งเวลามันมาคิดดูว่าจะหาเงินจากมันได้ยังไงบ้าง

ในช่วงท้ายของการ Live พี่โยเองก็เล่าให้ฟังว่า ตัวพี่โยยอมใช้ทุนในเรื่องของเวลา เพิ่มความรู้ในการเขียนโปรแกรมของตัวเอง โดยแลกกับการพักผ่อนที่น้อยลง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้เร็วขึ้นเช่นกัน

และนี่คือเนื้อหาที่ผมได้สรุปมาจากการ Live ทั้งในเรื่องของการคิด Content และมุมมองการใช้ชีวิตในครั้งนี้ครับ ขอบคุณพี่โย จาก Photoschool Thailand มากๆ ที่ทำให้ได้เรื่องราวดีๆ มาแบ่งปันทุกๆ คนครับ

อย่าลืมกดติดตามในช่องทางเหล่านี้ สำหรับบทความและคลิปใหม่ๆ จากผมด้วยนะครับ ^^

Facebook Page https://fb.com/undervlog
Youtube Channel https://www.youtube.com/undervlogdotblog
Instagram https://www.instagram.com/undervlog/
Twitter https://twitter.com/undervlogth
RSS Feed https://undervlog.blog/feed/