ช่วงหลังมานี้ พอผมได้ iPhone 11 มาเลยไม่ค่อยจะได้พกกล้อง Compact ไปไหนเท่าไหร่ เพราะมันใช้แทนกันได้อยู่หลายอย่างสำหรับการเก็บภาพความทรงจำในชีวิตประจำวันทั่วๆ ไป โหมดที่ใช้บ่อยโหมดนี้ก็คือโหมด Portrait ที่ต้องใช้ถ่ายภาพให้คุณภรรยาเสมอๆ ช่วยให้เรามีภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้พอสวยงาม
เมื่อวานนี้ ผมเจอเลนส์มือหมุนที่ซื้อมาตั้งแต่สองปีก่อน เลยอยากจะเอามาลองเล่น ใส่เลนส์กับกล้องเสร็จก็นึกขึ้นมาว่า ไอ้ Effect การเบลอหลังกับโบเก้ในแบบเลนส์มือหมุนเนี่ย มันมีไหม? แล้วก็มาเจอแอพที่ชื่อว่า “Focos” เข้าครับ
หน้าจอดาวน์โหลดแอพ Focos ใน Apple Store
ใครใช้ iPhone อยู่สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ที่ลิงค์นี้ครับ
ตัวแอพ Focos มีทั้งเวอร์ชั่นฟรี และแบบเสียเงินให้ใช้ ซึ่งแบบเสียเงินนั้นมีทั้งแบบจ่ายเป็นรายเดือนเริ่มตั้งแต่เดือนละ 29 บาท จนถึงแบบซื้อขาด ในราคา 399 บาท ในบทความนี้ผมใช้แบบซื้อขาดไปเลย จะได้ไม่ต้องงงว่าบัตรโดนตัดจากแอพอะไรไปบ้าง ส่วนแบบฟรีก็มีความสามารถเจ๋งๆ อย่างการแก้โฟกัสและปรับรูรับแสงอยู่แล้ว ใครคิดว่าเท่านี้เพียงพอก็ไม่จำเปนต้องจ่ายเงินเพิ่ม
เมื่อเปิดแอพ Focos จะเจอหน้าจอการใช้งานกล้องก่อนเป็นอย่างแรก เราสามารถใช้งานเพื่อถ่ายภาพได้ทันที สามารถปรับรูรับแสงตรงนี้เลยก็ได้ว่าจะให้ด้านหลังเบลอมาหรือน้อย ส่วนเรื่องแฟลชความสว่างและรูรับแสง อันนี้ทุกคนน่าจะหาอ่านทำความเข้าใจได้ไม่ยาก
เมื่อกดที่ปุ่มรูปสามเหลี่ยมซ้ายมือ จะมีเมนูให้เราปรับเพิ่มเติมอีก ไม่ว่าจะเป็นอัตราส่วนภาพ การเปิดใช้งาน Location เพื่อบันทึกสถานที่ถ่าย หรือการหน่วงเวลา
แตะที่รูปภาพที่เรียงอยู่ด้านล่างเป็นเป็นการเปิด Gallery ขึ้นมา มันจะเลือกเป็น Portrait Photo ที่เราใช้โหมด Portriat จาก iPhone ถ่ายมาให้ก่อน แต่เราก็สามารถเลือกรูป All Photo หรือ Album ก็ได้ ตัวแอพจะทำการ Generate ระยะหนาชัดหลังเบลอให้โดยอัตโนมัติ แต่อาจจะไม่เนียนเท่าภาพที่มาจากโหมด Portrait ทีนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่เนียน พอทุกคนอ่านบทความนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะรู้ว่า เราแก้ให้มันเนียนได้อยู่
แต่อย่าลืม หากว่าเราถ่ายภาพมาได้ดีแล้ว เราก็จะทำการแก้ไขได้ง่ายขึ้น ลองอ่านวิธีการถ่าย Portrait จากกล้อง iPhone ให้เบลอหลังเนียนๆ ก่อน จากบทความด้านล่างนี้
เอาละครับ กลับมาสู่เรื่องเดิมกันต่อ เปิดภาพที่เราต้องการจะแต่ง ขึ้นมาก่อนเลยดีกว่า
เมื่อเปิดภาพขึ้นมา เราจะมาอยู่ที่หน้าจอนี้เป็นจอแรก เราสามารถแตะจุดใดๆ ก้ได้ในภาพ เพื่อเลือกจุดโฟกัส อย่างตอนนี้ผมแตะไปที่ใบหน้า ภาพก็จะโฟกัสที่ใบหน้า
เมื่อแตะไปข้างหลัง ภาพก็จะโฟกัสไปที่ข้างหลังครับ โอ้ มันทำได้ยังไงกัน?
จะบอกว่าในแอพนี้ เค้ามีเฉลยไว้ให้เราเข้าใจวิธีการทำงานของการเบลอหลังในกล้องมือถือด้วยนะ เดี๋ยวเอาไว้ท้ายๆ เราจะมาปรับค่ารูรับแสง และเลือกรูปแบบของโบเก้ที่เราชอบกันก่อน
ที่เมนู Aperture นั้น ตรง Size เราสามารถเลือกความกว้างของรูรับแสงได้ ซึ่งจุดนี้เราไม่ควรเลือกให้มันเบลอมากเกินไปจนดูหลอกตานะครับ เอาแค่ประมาณดูแล้วว่าเป็นธรรมชาติหน่อย อย่างในรูป ผมลองแล้วที่ f4.0 ดูกำลังดี ของคนอื่นๆ อาจจะแตกต่างกันไปนะ
ส่วนโฟกัสก็คือระยะที่เราจะทำการโฟกัส ซึ่งผมมองว่าเอานิ้วแตะมันง่ายกว่าน่ะ ขอข้ามไปละกัน
ถัดมาคือส่วนของ Shape ว่าเราจะให้โบเก้ของเรารูปร่างแบบไหน หากว่าใช้เวอร์ชั่นฟรี เราจะใช้ได้แค่ Basic เท่านั้น ส่วนเวอร์ชั่นเสียเงิน เราจะสามารถเลอืกได้ทั้งหมด ในภาพผมเลือกแบบ 6 เหลี่ยม จะเห็นว่าดวงไฟและจุดที่เป็นโบเก้ด้านหลัง จะกลายเป็นรูป 6 เหลี่ยมแล้ว
เมนู Highlights เอาไว้เพิ่มความสว่างให้กับจุดที่เป็นโบเก้ของเรา เผื่อว่าตัวโบเก้มันมืดและจมลงไปกับฉากหลัง เราก็จะทำให้มันดูเด่นขึ้นมาได้
อีกอันก็คือ Vivid กรณีที่โบเก้และส่วนที่เบลอหลังของเรา สีมันจืดไป เราใช้ส่วนนี้มาเร่งได้เช่นกัน แต่อย่าเร่งมากเกินไป ยิ่งถ้ามีตัวแบบอยู่ในภาพด้วย เพราะจะทำให้ฉากหลังสีสด จนเด่นกว่าตัวแบบได้นะ
ในโหมดถัดมาก็คือ LENS ที่เราจะสามารถเลือกได้ว่าต้นแบบตัวโบเก้ของเรา จะมาจากเลนส์ตัวไหน ซึ่งตรงนี้หากว่าใช้เวอร์ชั่นฟรี จะมีแค่ Normal คือการเบอลหลังธรรมดาเท่านั้น แต่ถ้าเวอร์ชั่นเสียเงิน จะเลือกได้หมดทั้งแผงนี้เลย อย่างตอนนี้ผมเลือก Minolta RF250 ซึ่งเป็น Reflex Lens ให้โบเก้ที่เป็นรูปวงแหวน สวยเลย
ผมเสียเงินก็เพราะไอ้โหมดนี้เนี่ยแหละ อันอื่นพึ่งมารู้ทีหลัง 55+
และโหมด Lighting นี่แหละ ที่จะมาคลายความสงสัยให้เราว่า ทำไมเราถึงสามารถปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ครับ ทันที่ที่เราเข้าโหมดนี้มา หน้าจอจอโชว์แบบนี้ เราสามารถเอานิ้วจิ้มค้างไว้และหมุนไปหมุนมาได้ ซึ่งถ้าเรามองรูปนี้จากด้านข้าง ภาพของเราที่กล้องถ่ายได้ จะมีการเก็บข้อมูลไว้เป็นแบบด้านล่างนี้
จะเห็นว่าตัวภาพถ่ายของเรา มีการเก็บข้อมูลความลึกเอาไว้ด้วย และแบ่งออกเป็นชั้นๆ ซึ่งแบบนี้เอง ที่ทำให้เราสามารถมาปรับความชัดความเบลอทีหลังได้ โดยการทำให้ส่วนที่พ้นโฟกัสมันถูกเบลอละลายออกไปนั่นเอง ทีนี้ด้วยการที่มันเก็บข้อมูลความลึกเอาไว้ ก็เลยช่วยให้เราสามารถจัดแสงมันใหม่ในโหมด Lighting นี้ได้ครับ
หากว่าใช้เวอร์ชั่ยเสียเงิน เราจะสามารถเลือกแหล่งกำเนิดแสงได้หลากหลายมากกว่าเวอร์ชั่นฟรี ผมจะเอา Softbox มาใส่ในภาพสักสองอัน เพื่อเพิ่มความสว่างให้ตัวแบบ และลดความสว่างของฉากหลังลง
ถ้ามองจากมุมมองด้านบนก็จะได้แบบนี้ ผมเอา Softbox อันนึง ส่องที่หน้าตัวแบบ และอีกอันส่องที่ระยะของฉากหลัง นอกจากที่เราจะสามารถเพิ่มความสว่างแล้ว เรายังสามารถเลือกที่ Softbox และลดความสว่างในส่วนของบริเวณที่ Softbox เราส่องไปได้ด้วย
สรุปตามภาพก็คือ ผมลดความสว่างรวมทั้งภาพลงจากเมนู Sunlight เพิ่มความสว่างที่หน้าตัวแบบด้วย Softbox อันขวาล่าง และลดความสว่างฉากหลังด้วย Softbox อันบนอีกที
ตัว Softbox เราสามารถขยับมันให้อยู่ในตำแหน่งและหกันไปในทิศทางที่เราต้องการได้โดยการแตะที่ Softbox จะเป็นการเปลี่ยนตำแหน่ง แตะที่ลูกศรจะเป็นการเปลี่ยนทิศทางของแสง
พอเราซูมเข้าไปดูหรือกดโมหด 2D ที่ด้านซ้ายบนก็จะเห็นผลการจัดแสงของเราละครับ ถ้าชอบใจแล้ว เราจะไปแก้เรื่องโฟกัสกันต่อ
ทีนี้ หากเราดูในภาพที่ผมนำมาแต่งนี้ จะเห็นว่า ตัวแจกันดอกไม้ มันดันเบลอไปด้วยซะงั้น หากในตัวกล้องของ iPhone เอง ถ้าเราปรับรูรับแสง มันก็จะทำได้แค่ เพิ่มความเบลอกับลดความเบลอเท่านั้น ดังนั้น เราจะมาแก้กันในแอพ Focos นี้เนี่ยแหละ
แตะไปที่โหมด Focus หน้าจอจะแสดงภาพแบบนี้ขึ้นมา จะเห็นว่ามันมีแถบสีแดงสองแถบ อันบนคือ Front Bokeh และอันล่างคือ Back Bokeh
ตัว Front Bokeh คือจุดที่เอาไว้บอกให้แอพทำการเบลอและสร้างโบเก้ส่วนที่เป็นฉากหน้า ส่วน Back Bokeh ก็สำหรับเอส่วนที่เป็นฉากหลังนั่นเอง
จุดที่เป็นแจกันดอกไม้นั้น อยู่ในช่วง Front Bokeh ตามลูกศรที่ผมชี้เอาไว้ เราจะมาปรับส่วนนี้กัน
เอานิ้วแตะส่วนท้ายของ Front Bokeh ขยับเลื่อนมาด้านหน้าให้พ้นจุดที่เป็นแจกันดอกไม้ครับ ส่วนที่ไม่อยู่ทั้งในระยะ Front และ Back จะเป็นส่วนที่คมชัดนั่นเอง
และถ้าดูดีๆ ตอนแรก เหมือนปีกหมวกมันเบลออยู่นิดหน่อย ผมจะทำให้ชัดขึ้นโดยเลื่อน Back Bokeh ให้มันถอยหลังเข้าไปจนพ้นระยะตัวแบบไปเลย
และอันนี้ก็คือ ภาพที่เราทำเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ หากว่าพอใจ ไม่ปรับแต่งอะไรแล้ว เราก็ไปสู่ขั้นตอนการ Export เพื่อเอาไปโพสหรือปรับสีกันต่อในแอพอื่นๆ
กดที่ปุ่มแชร์ด้านขวามือบน เพื่อทำการ Export ภาพได้เลยครับ
ตรงนี้จะให้เราเลือกว่าจะเซฟไฟล์นี้เป็น Copy ขึ้นมาอีกไฟล์ เซฟทับไปเลย หรือจะเซฟเป็น Portrait อีกทีเพื่อเก็บข้อมูลความลึกของภาพไว้แต่งต่อในโปรแกรมอื่นๆ หรือแม้แต่แอพในตัว iPhone ต่ออีกทีก็ได้ และจะแชร์ไปเลยก็ได้เช่นกัน
ตัว Format ผมเลือกเป็น HEIC ครับ เพื่อที่จะได้ประหยัดเนื้อที่ด้วยแต่ยังมีข้อมูลในตัวภาพที่ดีอยู่ และเป็นไฟล์รูปแบบดั้งเดิมจากกล้องของ iPhone เอง พอ Export เสร็จแล้ว เราจะนำไปทำสีต่อใน Lightroom Mobile หรือ Instagram ก็แล้วแต่เราละครับ
และภาพสุดท้ายนี้ก็คือภาพที่ผานการแต่งสีจากใน Lightroom Mobile มาอีกทีเรียบร้อยแล้วครับ เท่านี้เราก็จะได้ภาพที่ถ่ายด้วยมือถือ แต่มีโบเก้เหมือนเลนส์มือหมุน แถมยังจัดแสงใหม่ได้อีกด้วยครับ วิธีนี้อาจจะดูมีหลายขั้นตอน แต่จริงๆ แล้ว การทำแต่ละภาพ ไมไ่ด้ใช้เวลาเยอะเท่าที่คิด ถ้าเข้าใจแต่ละส่วนของตัวแอพแล้ว ทุกอย่างก็ง่ายนิดเดียว
ใครที่อยากได้ภาพโบเก้สวยๆ เบลอหลังดีๆ ที่ง่ายกว่านี้ พกกล้องไปถ่ายเลยน่าจะดีที่สุดครับ
และหากว่าใครอยากถ่ายวิดีโอจาก iPhone ให้มีหน้าชัดหลังเบลอเหมือนใช้กล้องตัวใหญ่ถ่ายบางล่ะก็ ตามไปดูบทความ Focos Live บทความนี้กันได้เลย
อย่าลืมกดติดตามในช่องทางเหล่านี้ สำหรับบทความและคลิปใหม่ๆ จากผมด้วยนะครับ ^^
Facebook Page https://fb.com/undervlog
Youtube Channel https://www.youtube.com/undervlogdotblog
Instagram https://www.instagram.com/undervlog/
Twitter https://twitter.com/undervlogth
RSS Feed https://undervlog.blog/feed/